ครูของฉัน นายช่างหรือเรือจ้าง - ครูของฉัน นายช่างหรือเรือจ้าง นิยาย ครูของฉัน นายช่างหรือเรือจ้าง : Dek-D.com - Writer

    ครูของฉัน นายช่างหรือเรือจ้าง

    รำลึกถึงวันครู จึงได้ย้ายจาก blog มาเก็บไว้ที่งานเขียน

    ผู้เข้าชมรวม

    955

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    955

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.ค. 53 / 06:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

         

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

               ขบวนการทั้งหมด 3 วัน 2 คืน  ผมทำหน้าที่ เป็นปฏิมากรที่ต้องตัดแต่งส่วนที่มันไม่ใช่  ไม่ถูกต้อง ออกไปเพื่อให้ได้ปฏิมากรรมที่สวยงาม เอาไว้ประดับในองค์กรแต่ละองค์กร  มันเหมือนกับรูปปั้นหินอ่อนที่รอให้ใครได้ชื่นชม  ถ้าใครได้มีโอกาสได้เดินทางไปอิตาลีหรือฝรั่งเศล ไปชมพิพิธภัณฑ์หินอ่อนสวยมาก



                      วันหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนั้น มีรูปปั้นหินอ่อน ถ้าใครอยากเห็นปฏิมากรรมที่คล้ายๆกันในบ้านเราไปดูที่พระที่นั่งอนันตมหาสมาคม  บ้านเราก็สวยไม่แพ้ใครเหมือนกัน

                       ผมได้มีโอกาสพาคุณแม่ไป ซึ่งเมื่อก่อนเขาจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเด็กเท่านั้น  เราซื้อบัตรเข้าไปชมพระที่นั่งวิมานเมฆในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อชมเสร็จก็เดินอ้อมไปจนกระทั่งถึงพระที่นั่งอนันตมหาสมาคม  คุณแม่ผมดีใจมาก วันนั้นพอเข้าไป คุณแม่นอนดูอย่างสบายใจ อย่างมีความสุข เพราะว่าจิตรกรรมฝาผนังที่วาดไว้สวยมาก  สักพักมีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาบอกแม่ผมว่า  'คุณป้าคะนอนดูไม่ได้'  คุณแม่เลยลุกและบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "คุณช่วยไปบอกนางแหม่มคนนั้นด้วยให้ลุกขึ้นด้วย"  ผมอดขำไม่ได้ บอกกับท่านว่า แม่รู้ไหมที่เขานอนดูเพราะใคร  เพราะแม่แหละ เราเป็นเจ้าบ้านไปนำเขา ท่านหัวเราะอย่างมีความสุข


      พอภาพฝันชัดเจน

           เหมือนบันไดหินอ่อน ได้ตัดพ้อต่อว่า  มันไม่ยุติธรรมเลยที่ทุกคนทุกทั่วสาระทิศใช้เท้าสกปรกเดินเข้าเหยียบย้ำตัวฉันแล้วเดินเข้าไปชื่นชมตัวเธอ มันไม่ยุติธรรม ... แล้วรูปปั้นหินอ่อนพูดกับบันไดหินอ่อนว่า เธอลองคิดดูนะ คิดให้ดี เรามาจากแหล่งหินเดียวกัน ภูเขาลูกเดียวกัน เรามาให้นายช่างเลือก มาพร้อมๆกัน แล้วนายช่างก็เลือกเธอกอ่นด้วยซ้ำไป  แต่ทันทีที่เขาเริ่มลงมือใช้สิว  ค้อน กระดาษทรายขัดลงบนตัวเธอ ให้เป็นรูปปั้นหินอ่อนที่สวยงาม  แต่ะเธอ กลับตระโกนร้องอย่างเจ็บปวด แล้วบอกกันนายช่างว่า  ได้โปรดเถิดนายช่าง หยุดเถอะนายช่าง  มันเจ็บปวดเหลือเกิน ฉันทนไม่ไหวแล้ว  โปรดหยุดมือของท่าน  แล้วเขาก็มาเลือกฉัน

        

      ถามว่า  ทุกครั้งที่นายช่างเอาสิวตอกบนตัวฉันเพื่อขัดเอาสิ่งไม่จำเป็นออกไป ฉันเจ็บไหม บอกได้ว่า เจ็บ ทุกครั้งที่นายช่างฝนสิวตามแขน ตามขา ใช้เหล็กแหลมๆ กรีดเข้ามาบนตัวฉัน เป็นคิว เป็นขนตา หรือแม้แต่เป็นเส้นผมสักเส้นมันเจ็บเข้าไปในหัวใจเลยละ  แต่ฉันก็อดทนเพราะฉันรู้ว่านายช่างกำลังเปลี่ยนแปลงตัวฉันจากคนธรรมดาๆให้เป็นปฏิมากรรมหินอ่อนที่สวยงาม  ฉะนั้นเธอไม่ต้องแปลกใจที่ผู้คนจะเหยียบย่ำต้วเธอแล้วหันมาชื่นชมในตัวฉัน แต่กว่าฉันจะเป็นรูปปั้นหินอ่อนที่สวยงามได้ฉันต้องใช้ความ
                สต๊าฟเหล่านี้(ครูพูดถึงฉันและพี่น้องอีกหลายคน)  ทุกคนที่มาในวันนี้ คนเหล่านี้ที่มาในวันนี้ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร แต่ทุกคนมาเมื่อรู้ว่าผมมา  ถามว่าเขาเดือดร้อนไหม เขาไม่ได้เดือดร้อน แต่เขามาเพราะต้องการความสุขที่แท้จริงที่เขาต้องการแสวงหาให้กับชีวิตของเขา
                3วัน 2 คืน  ผมอาจจะจ้ำจี้จ้ำไช กับความเป็นส่วนตัวของแต่ละคน บางครั้งก็ออกจะมากเกินไป  อย่างที่ไม่เคยมีวิทยากรท่านใดเคยทำมาก่อน เพราะภาพของผมก็ไม่ต่างอะไรกับพวกท่าน มันใช้ชีวิตไปวันๆโดยไม่มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนโดยไม่รู้ว่าต้องการจะทำอะไรตรงไหน เราจะใช้ชีวิตอย่างไรในอนาคต เพราะความสุขที่แท้จริงในชีวิตมันไม่มีหรอก มีแต่เราต้องการเป็นบุคคลที่สำคัญ พอเรารักอาจารย์เพียงแต่ในเบื้องตนแล้วเราพาตัวเองไปให้อาจารย์รู้จักแล้วอยากให้ท่านรักเรา พอใครใช้อะไรทำหมด  เพียงแค่พอทำอะไรสักอย่างก็นั่งรอให้เขามาชื่นชม ดีมาก ดี เยื่ยมมากเลยทำได้อย่างไร แค่นี้ หัวใจพองโต ถามหน่อยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความสุขแท้จริงหรือไม่....ไม่...มันเป็นยาละลายกระดูก

            หลายๆคนชอบคำหวาน ชอบคำยกยอบอปั้น  แต่ถ้าถูกใครที่พูดตรงๆไม่ชอบรับไม่ได้ มันจึงบอกว่า ในแต่ละองค์กร มีทั้งคนเก่งและคนดี แต่ถามว่าคนเก่งรับองค์กรอย่างแท้จริงไหม  ไม่หรอกเพราะเมื่อที่ไหนดีกว่าเขาจะไปทันที อยู่ที่นี่แล้วรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง เขาจะไปหาเอาใหม่ข้างหน้าก็ได้  แต่ถ้าคนดีเขายืนอยู่กับองค์กร แล้วเขาจะช่วยคิดช่วยทำเพราะเขาคิดว่าองค์กรนี้เป็นของเขา  เป็นที่กิน ที่นอน ที่ผักผ่อนจนกว่าจะตาย เขาจะทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับองค์กรของเขา  สิ่งเหล่านี้มันหาได้น้อยมากในสังคมไทยในปัจจุบัน  ผมจะบอกกับตัวเองว่า ถ้าเมื่อใดมีความพร้อมผมจะเดินทางให้โอกาสทางความคิดกับผู้คน

       การที่ผมได้คนพบตัวเอง มันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด เป็นทรัพย์อันมหาศาล มากที่สุดในชีวิตผม

            ผมได้ถามภรรยาของผมว่า ผมต้องเตรียมงบประมาณและทรัพย์สินเท่าไหร่ ถ้าผมจะเดินทางมาทำอะไรแบบนี้ ในขณะนั้นผมกำลังสร้างฐานะ ผมทำงานเป็นลูกจ้างแบบทำมากได้มากทำน้อยได้น้อย ไม่ทำก็ไม่ได้อะร แต่มันได้หล่อหลอมให้ผมเป็นปัจจุบันนี้  ถามว่ามันใช่สิ่งที่ผมต้องการไหม?  เปล่าเลย
      เพราะผมมีภาพฝันในจินตนาการ ผมตัดสินใจ ภรรยาผมคำนวณอยู่ประมาณเกือน 2 เดือนแล้วเธอก็บอกผมว่าต้องการมีเท่านี้เขาถึงจะพอ ถ้าพ่อจะลาออก แล้วผมก็ทำ ทำจนให้พอก้บเธอ  แล้วผมก็ได้มีโอกาสเดินทางมาให้โอกาสทางความคิดกับผู้คน  ถามว่ามันคุ้มไหม  ไม่คุ้มหรอกกับการที่ต้องให้คนอื่นมาเกลียดขี้หน้าเรา กับต้องพาตัวเองมาเหน็ดเหนื่อย มาจ้ำจี้จ้ำไช ยืนพูดยังไม่พอต้องใช้สมองคิด
         เมื่อสักครู่ที่ทุกคนเล่นละครผมต้องนั่งดูและบันทึกแต่ละท่านและดูว่าแต่ละคนได้ใช้ความสามารถขับอัจฉริยภาพ พลังแฝงที่ซ้อนเร้น บางคน  2วันที่ผ่านมาไม่ได้แสดงอะไรเลย  บางคนต้องขยี้ตาใช่คนเมื่อเช้าหรือเปล่า มันเพียงแต่ว่าตัวเราเองไม่รู้  ว่าตัวเรามีความสามารถขนาดไหนมันเหมือนยักษ์ที่อยู่ในตะเกียง มันถูกซ่อนอยู่ ถ้าไม่ขัดให้ออกมา   พอยักษ์ออกมาเจ้าอยากได้อะไรข้าให้เจ้าเห็นไหม...
        สิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้นั่งฟังคุณหมอ(วิทยากรส่วนของสาธารณสุข) ท่านพูดเรื่องออกกำลังกาย การออกกำลังยังต้องใช้แรงบันดาลใจ  พามว่ามันสอดคล้องกับสิ่งที่ผมให้ไหม? สอดคล้องไหมครับ  ผมจึงบอกว่า เมื่อเราตัดสินใจที่จะทำอะไรแล้วให้อยู่ในบรรยากาศตลอดเวลา  ผมไม่แปลกใจเมื่อคุณกับท่านผอ (ผู้อำนวยการโรงพยาบาล) ท่านบอกว่า "ผมรู้สึกหนักใจ การที่เราจะเปลี่ยนใครสักคนมันเป็นเรื่องยาก "  ผมบอกว่าผมเข้าใจดีเพราะผมอยู่ตรงนนี้มาตลอดชีวิตผม ผมทราบแม้นแต่ตัวผมเองกว่าจะเอาชนะตัวเองได้ก็กว่าครึ่งชีวิต...แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดมันไม่เคยมี หรือมันไม่สามารถลบล้างปฏิธานผมได้ มันเหมือนกับสต๊าฟ เหล่านี้ที่มองมาทางผม เห็นแสงแห่งศรัทธาในตัวผม ผมต้องทำให้ทุกชีวิตที่เป็นลูกศิษย์ดีขึ้น แต่จะดีขึ้นด้านไหนนั้นต้องค่อยๆดูกันไป  (ฉันนะ..อยากร้องไห้จัง..และรู้สึกตนเองดวงดีเหลือเกินที่ได้เป็นลูกศิษย์ของท่าน)   อยู่ใกล้ๆผมไม่สบายหรอกครับเขาจะถูกกรีดถูกแซะถูกต้ดตลอดเวลาจนจะซาดิสต์กันหมดแล้ว ผมได้แต่บอกว่าทำกันต่อไป ไม่เป็นไรหรอกอย่างน้อยๆเราก็มีความสุข และมีความสุขในชีวิตของเราให้ได้  หามันให้เจอแล้วชีวิตเราจะดีขึ้น

       

            



           

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×